8/22/2555

พลังงานถ่านหิน


ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในอดีตจนถึงปัจจุบัน อุตสาหกรรมถ่านหินซึ่งรวมทั้งการสำรวจ การผลิต และการใช้นั้นได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศ ที่เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศในยุโรป

ทั้งนี้ถ่านหินมีกำเนิดจากซากพืช ประกอบด้วยคาร์บอน สารระเหยง่ายความชื้น และขี้เถ้าที่ถูกแปรเปลี่ยนไปเนื่องจากความร้อนและความกดดันโดยใช้เวลาหลาย ล้านปี ถ่านหินแบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่ 1.แอนทราไซด เป็นถ่านหินที่มีคุณภาพดีที่สุด และหายากที่สุด มีคาร์บอนสูงร้อยละ 92-93 และเป็นพวกไอโดรคาร์บอนที่ต่ำที่สุด มีสีดำ ไม่ค่อยมีขี้เถ้า เผาไหม้ให้ความร้อนสูง ให้เปลวสีน้ำเงิน มีควันน้อยมาก

2.บิทูมินัส มีคาร์บอนร้อยละ 75 ความชื้นน้อยกว่าร้อยละ 15-50 ติดไฟง่าย ใช้ทำถ่านโค้ก ใช้ในอุตสาหกรรมได้ 3.ซับบิทูมินัส มีสีดำ มีคาร์บอนร้อยละ 25 และ 4.ลิกไนต์เป็นถ่านหินที่มีคุณภาพต่ำที่สุด มีปริมาณคาร์บอนต่ำที่สุด และมีปริมาณความชื้นมาก

ปริมาณสำรองของถ่านหินมีจำนวนมากเมื่อเทียบกับน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ดังนั้นถ้ามีวิธีการนำมาใช้ที่เหมาะสมก็สามารถใช้ได้นานไม่น้อยกว่า 200 ปี เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะหมดไปในระยะเวลา 40-60 ปีนี้

ประเทศไทยมีปริมาณสำรองถ่านหินมากกว่า 2,000 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้คิดเป็นปริมาณสำรองที่ประเมินแล้วประมาณ 1,100 ล้านตัน แหล่งถ่านหินส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศ โดยมีศักดิ์ของถ่านหิน อยู่ในระดับลิกไนต์ โดยซับบิทูมินัส จนถึงบิทูมินัส มีบ้างที่มีศักดิ์เป็นแอนทราไซต์ แต่มีปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งพบได้ที่แหล่งในจังหวัดเลย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เมืองไทยมีการนำเข้าถ่านหินคุณภาพสูง โดยมีการนำเข้าถ่านหินบิทูมินัสในปริมาณมากที่สุด เนื่องจากแหล่งถ่านหินส่งออกของภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่ผลิตถ่านหินบิทูมินัส ซึ่งมีคุณภาพดี โดยมีปริมาณนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซียมากที่สุดประมาณร้อยละ 65 รองลงมาได้แก่ เวียดนาม พม่า ออสเตรเลีย จีน ลาว และอื่นๆตามลำดับ เนื่องจากการเลือกใช้ถ่านหินขึ้นอยู่กับคุณภาพและระยะทางขนส่ง การนำเข้าถ่านหินจึงมาจากประเทศใกล้เคียงเพื่อให้ได้ถ่านหินที่มีคุณภาพดีใน ราคาที่เหมาะสม

ถ่านหินที่ใช้ในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตภาคไฟฟ้าถึงร้อยละ 81 ที่เหลือร้อยละ 19 ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเรียงตามลำดับการใช้จากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้อุตสาหกรรมซีเมนต์ กระดาษ เยื่อไฟเบอร์ อาหาร ปูนขาว ใบยาสูบ โลหะ แบตเตอรี่และอื่นๆ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดในหลายประเทศเช่น ญี่ปุ่นและจีน ทำให้เทคโนโลยีนี้แพร่หลายมากขึ้นและมีราคาถูกลง ตัวอย่างในประเทศจีน ได้ประมาณว่ามีโรงงานผลิตก๊าซจากถ่านหินเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากกว่า 10,000 แห่ง และมีโรงงานที่มีศักยภาพในการผลิต Coal Water Mixture หลายโรงงาน



ขอบคุณแหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามรัฐ โดย ราชดำเนินกลาง / ชุมพล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น